9 ก.พ. 2557

10.เม่าน้อยคุยเรื่องปันผล

วันนี้ ผมจะมาเขียนว่าด้วยเรื่องของปันผล

นักลงทุนหน้าใหม่หลายๆคนมักจะ พยายามมองหาหุ้น ปันผล โดยการ ดูจาก Dividend Yield ซึ่งเป็นความเข้าใจ ที่ไม่ถูกต้องนัก

ทำไมหน่ะหรือ ??? จุดอ่อน ก็คือ วิธีการคิด Dividend Yield ซึ่งคิดจาก เงินปันผล (ที่ผ่านมาในปีนี้) หารด้วยราคาปัจจุบัน แต่ Dividend Yield ที่เราต้องการ จริงๆ คือ เงินปันผล ในปีหน้า หารด้วยราคาที่เราซื้อ

ดังนั้น ก่อนอื่น เลย เราต้องเข้าใจ ก่อน ว่า ปันผลมาจากไหน ??

เมื่อบริษัท นำเงินของนักลงทุน ไปลงทุน ก็จะ เกิด กำไรขึ้น

กำไรทีได้จะถูกแบ่งออกเป็น สอง ส่วน

1 ลงทุนต่อ ทำให้เกิด Growth สินทรัพย์เพิ่ม และจะส่งผลให้ ราคาหุ้น เพิ่มขึ้น โดยอัตโนมัติ
2 ปันผล จ่ายคืนแก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งแต่ละบริษัท มีนโยบาย จ่ายเงินปันผล ไม่เท่ากัน บาง บริษัท จ่าย 25 เปอเซนของกำไร บางบริษัท จ่าย 40 หรือ 100 เปอเซนของกำไร


ฮะ >< ดังนั้นการที่เอาแค่ Dividend Yield มาเปรียบเทียบกันนั้น มันแทบจะบ่งบอก อะไรไม่ได้เลย  - - สิ่งที่ควรจะไปดูคือ กำไรตะหาก ซึ่งคิดได้ง่ายๆครับ

ผมจะยกตัวอย่างให้ดู
ปตท มี นโยบายเงินปัน ผล 25 เปอเซนดังรูป




จะเห็นว่าปีที่แล้ว ปตท มีกำไร 36.64 บาท ต่อหุ้น ดังนั้นเงินปันผล ของปีที่แล้ว ตามนโยบาย ควรจะ ได้ประมาณ 9.16 บาท แต่ปีที่แล้ว ปตท จ่ายปัน ผล2 ครั้ง รวม 13 บาท บาท

จะเห็นว่า ราคาหุ้น ปตท ปีที่แล้ว อยู่ที่ 332 บาท ถ้าเราคิด ณ ปีที่แล้ว จะได้ Dividend yield  ที่  3.9 เปอเซน

แต่ ณ ปัจจุบันราคาหุ้น ปตท ตกลงมาที่ 286 บาท เราจะคิด Dividend Yield ได้ที่ 4.5 เปอเซน


ถ้าเราดูเพิ่มเติมเราก็จะพบว่า หุ้น ปตท ถึงแม้ว่า ผลประกอบการ 9 เดือนแรก ไม่ได้มีพื้นฐานเปลี่ยนไปมากนัก

แต่มันก็มีในบางครั้งที่ราคาหุ้นตก ลง เพราะผลประกอบการไม่ดีครับ ทำให้ พอเราคิด Dividend yield แล้ว เหมือนว่าเราจะได้ปันผลมากขึ้น แต่ในความเป็นจริง เมื่อผลประกอบการไม่ดี ปีหน้า ก็จะทำให้บริษัทมีกำไรน้อยลง และได้ปันผล น้อยลง ครับ

ซึ่งถ้าใครซื้อหุ้นโดยดูแต่ Dividend  Yield หล่ะก็ ท่านอาจจะงานเข้าได้นะครับ ^^


ขอให้เม่า ทุกตัวโชคดีกับการลงทุนครับ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Like us