22 ก.พ. 2557

11 มารู้จักกับตลาดหุ้นกัน

มารู้จักกับตลาดหุ้น ผ่านบทความ เม่าน้อยกันนะครับ บางอันก็จำๆเค้ามา (แต่จำไม่ได้จริงๆว่ามาจากไหน) บางอันก็คิดเอง เออ เอง จากประสบการณ์ครับ ^^

1 ดัชนีของตลาดเป็นตัวบอกอนาคต ไม่ใช่ปัจจุบัน ราคาหุ้นก็เป็นราคาในอนาคต ไม่ใช่ปัจจุบันเช่นกัน
2 ตลาดหุ้น มี ทั้งหมด สามช่วง คือ เทรนด์ขึ้น เทรนด์ลง และไซด์เวย์ ไม่มีใครบอกได้แน่ชัดว่าอยู่ในช่วงไหน
3 เวลาตลาดหุ้นขึ้นลง เป็น Elliot wave ระหว่างขึ้นต้อบงมีย่อ ระหว่างลง ต้องมีเด้งเสมอ
4 ถ้าคิดถึงความเสี่ยงกับผลตอบแทน เค้าบอกว่าหุ้นเป็นสินทรัพย์ที่คุ้มที่สุด จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ เห็นคนเขียนมาในเฟซบุค แต่ ไม่รู้ พิสูจน์ยังไง (ใครรู้บอกที)
5 ตลาดหุ้น ทั่วโลก ถ้าเรามีเวลามันก็จะกลับมาทำ new high ได้เสมอ แต่บางที กว่าจะทำ new high มาก็ร่วม 20 ปี
6 การซื้อ ลอตเดียวทั้งหมด กับหุ้น ตัวเดียว ไม่เป็นความคิดที่ดีแน่นอน ไม่ว่าจะ VI หรือเทคนิค
7 ดร.นิเวศน์ ที่ว่าเซียนๆก็ยังเคยเลือกหุ้นผิดพลาด (ดร.แกเขียนบอกเลยในหนังสือ) ดังนั้นอย่าได้มั่นใจในหุ้นที่เลือกมากเกินไป
8 การวิเคราะห์ หุ้น มี 3 องค์ประกอบ คือ จิตวิทยา(ข่าว) กราฟเทคนิคอล และ พื้นฐาน หุ้นไทยให้เพิ่มเจ้าไปด้วยอีกอย่างหนึ่ง
9 Black sholes model เป็นสิ่งที่ คนที่ ซื้อ วอแรน กับ dw ควรจะรู้จัก แต่กลับมีคนรู้จักน้อยจน น่าตกใจ
10 ตลาดหุ้นลงเร็วกว่าขึ้นเสมอ
11 กราฟเทคนิคอล มักจะแม่นขาขึ้น ไม่แม่นขาลง เหตุผล เพราะ ข้อ 10
12 คนเล่น เทคนิคอล ส่วนมาก ไม่รู้จักหรือไม่สนใจ Money management กับ Drawdown
13 มือใหม่ส่วนมากชอบวัดผลการเล่นจากกำไรกันจากเงินที่ทำได้ ในระยะสั้นๆ สองสามปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถ้าจะวัดผลการเล่นในระยะสั้นๆนั้นควรจะต้องวัด เทียบกับดัชนีมากกว่า แต่ถ้าจะวัดเป็นกำไร หล่ะก็ ควรจะวัด 10 ปีขึ้นไป เพราะควรจะเล่นจนแน่ใจว่า ตลาด ได้ผ่านครบทั้ง ไซเคิลขึ้นและลงแล้ว
14  ตลาดหุ้น เป็น Non Zero sum game แปลง่ายๆคือ เวลาได้ทุกคนได้พร้อมกันหมด เวลาเสียทุกคนเสียพร้อมกันหมด ดังนั้น ไม่ต้องตกใจที่เวลาหุ้นขาขึ้น เทพจะเยอะ ส่วนเวลา หุ้นขาลง เทพแค่ไหนก็เงิบเหมือนกันหมด ไม่ต้องห่วง
15  ผลิตภัณฑ์ ทางการเงิน มีมากมาย ตั้งแต่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตร กองทุน หุ้น วอแรนต์ dw ฟิวเจ้อ ออปชัน ค่าเงิน ดัชนี คอมโมดิตี้ CFD ทองคำ แต่ละอันมีความเสี่ยง ต่างกัน โดยทั่วๆไปแล้ว ถ้าเล่นหุ้นได้กำไร และอยากเสี่ยงมากขึ้น ค่อยเอากำไรไปเล่นกับ ตัวที่เสี่ยงมากขึ้น เป็นความคิดที่ดีกว่าการเอาเงินไปซื้อหุ้น แบบเสี่ยงๆ (ไร้ Money management)
16 จริงอยู่ ที่คนที่รวยที่สุดในโลก รวยด้วย VI แต่ไม่ได้แปลว่า VI เจ๊งไม่ได้ ที่เมกา ก็มี วีไอเคยเจ๊งนะจะบอกให้
17 ดร.นิเวศน์อยู่ในตลาดหุ้น 10 ปีกว่าจะเริ่ม VI มันไม่ได้เป็นกันได้ในวันเดียว ไม่ต้องรีบ
18 พื้นฐานไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จริงๆแล้ว เทคนิคอลเป็นเรื่องยากกว่าพื้นฐานมากเลยทีเดียว ผมเห็นหลายๆคนเข้าใจว่า แค่เล่นตามจุดตัดขึ้นลงของกราฟและได้กำไร ซึ่งมันเกิดขึ้นเฉพาะในตลาดหุ้นขาขึ้น ใครที่เล่นมานานพอ จะรุ้ว่ามันไม่จริงเลย
19 เทคนิคอลไม่มีถูกต้อง 100 เปอเซน ถูก 60 เปอเซนก็หรูแล้ว
20 ราคาของหุ้นจะต้องเข้าใกล้ปัจจัยพื้นฐาน เมื่อระยะเวลาผ่านไป 3-5 ปี แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้น เสมอไป มีหุ้นบางตัวที่ราคาไม่เคยไปใกล้ปัจจัยพื้นฐานเลย
21 มือใหม่ ส่วนมาก ซื้อหุ้น ไปแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้คิดว่าจะขายตอนไหน จะถือนาน แค่ไหน พอหุ้นตกแดงๆ แล้วก็จะเริ่มมาดู พื้นฐาน กับ กราฟ สุดท้าย มักจะจบด้วยคัทลอสไม่ก็ติดดอยไปในที่สุด ^^


^^ ขอให้ทุกท่านสนุกกับการลงทุน ใครมีอะไรก็แชกันได้ครับ ผม เม่าน้อยอ่อนประสบการณ์ เขียนเล่น ยามดึก ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Like us